"Sigma sd Quattro" นวัตกรรมกล้อง mirrorless ล่าสุดจาก Sigma

[staff1]

"Sigma sd Quattro" นวัตกรรมกล้อง mirrorless ล่าสุดจาก Sigma

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปร่วมงาน Touch and Try sd Quattro เป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ได้ไปทำข่าว ภายในงานมีการนำเลนส์ของและกล้องรุ่นต่างๆ ของ sigma มาตั้งให้ได้ลองสัมผัสและลองถ่ายกันครับ ซึ่งพระเอกของงานนี้ก็คือ กล้อง mirrorless ที่เป็นนวัตกรรมล่าสุดของทาง Sigma ที่มีชื่อรุ่นว่า “sd Quattro” ที่น่าสนใจคือมันมาพร้อมกับ sensor Foveon X3 ซึ่งเป็น sensor ที่แบ่งเลเยอร์ออกเป็น 3 ชั้น เรียกว่าเป็นจุดเด่นของตัวนี้เลย ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความสมจริงเกือบเทียบเท่ากล้องฟิลม์เลยทีเดียว เราไปดูกันเลยดีกว่าครับ





ก่อนอื่นขอเกริ่นถึง sensor Foveon X3 กันสักนิด โดยปกติเซนเซอร์ในกล้องทั่วไปจะรับแสงได้แตกต่างกันในแต่ละพิกเซล หากเป็นสีอะไรก็จะยอมรับแค่สีในส่วนนั้นๆ โดยที่ไม่ยอมให้สีย่านอื่นๆผ่าน และเก็บข้อมูลแบบ interpolation แต่ Foveon แต่ละเลเยอร์จะรับย่านความถี่สีของสีนั้นๆ จากนั้นจะปล่อยแสงส่วนอื่นลงไปในเลอยร์ชั้นถัดไป ซึ่งขนาดของพิกเซลจะทับกันพอดี ทำให้แต่ละพิกเซลนั้นสามารถที่จะรับแสงทั้งสามสี (RGB) ได้ในพิกเซลเดียว ทำให้เกิดความสมจริงของภาพที่มากขึ้นครับ





Sigma sd Quattro ถือเป็นกล้อง mirrorless ตัวแรกของทางค่าย sigma และมีโหมดใหม่เพิ่มเข้ามา คือ super fine detail (SFD) สามารถถ่ายภาพได้ต่อเนื่อง 7 ภาพ จะเป็นไฟล์ X3I ซึ่งปกติไฟล์ RAW ของ sigma จะเป็น X3H


ระบบ Auto Focus ของ Sigma sd Quattro ได้รับการพัฒนามาจากกล้องรุ่นก่อนหน้านี้ในเรื่องของความเร็วในการโฟกัสที่เพิ่มขึ้นพอสมควร แต่ไม่กับเร็วมากนักเมื่อเทียบกับกล้องทั่วไป แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เพราะทาง Sigma ได้วางกล้องของค่ายเอง เน้นไปในกลุ่มที่เน้นในเรื่องของคุณภาพไฟล์จากตัวกล้องเป็นหลัก ทำให้การพัฒนาความสามารถของ Sigma sd Quattro เทน้ำหนักไปที่ระบบการประมวลผลภาพ และคุณภาพของภาพเป็นสำคัญ


ต่อไปเราจะมาดู Body ของ Sigma sd Quattro กันครับ





รูปร่างภายนอกของ Sigma sd Quattro จะยังคงเอกลักษณ์ในเรื่องการออกแบบคล้ายกับกล้อง Sigma รุ่นอื่นก่อนหน้านี้ ที่ใครที่เพิ่งเคยเห็นหรือลองจับเป็นครั้งแรก คงรู้สึกแปลกตา ด้วยความที่ Body แตกต่างจากกล้องยี่ห้ออื่นพอสมควร ซึ่งตัวกล้องจะดูยาว เวลาที่พกไปไหน แล้วคนเห็นผ่านๆ ต้องมองอีกทีแน่นอนด้วยความแปลกตาของมันนั่นเอง ในส่วนของการจับถือกล้อง กล้องตัวนี้ มีการทำกริปยื่นออกมาทางด้านขวามือ ซึ่งมีความลึกของกริปพอสมควร ทำให้การจับถือกล้องกระชับดีครับ





ตัวกล้องจะดูยาว เพื่อขยายพื้นที่ LCD ให้ใหญ่ขึ้นและเมนูตั้งค่าจะไม่กวนสายตามากไปเหมือนกับกล้องรุ่นอื่นๆ รูปทรงดูแปลกตา






กริปมีความลึกพอสมควร จับถือกระชับดีครับ






Highlight ของตัว Sigma sd Quattro “sensor Foveon X3”









มีช่อง HDMI, ช่อง USB 3, ช่องเสียบรีโมทกดชัตเตอร์






ที่ดูแปลกตานอกจากตัว body แล้ว ปุ่มเปิดปิดกล้องก็ถูกวางอยู่ในจุดที่ไม่ซ้ำใคร โดย Sigma sd Quattro ออกแบบให้ตัวปุ่มเปิดปิดไปอยู่บริเวณด้านหน้าของกล้อง เหนือช่องใส่เลนส์ แตกต่างจากกล้องทั่วไปที่ปุ่มเปิดปิดมักวางอยู่แถวปุ่มกดชัตเตอร์


จอภาพของ Sigma sd Quattro จะมีขนาดหน้าจอที่ยาวกว่าหน้าจอกล้องทั่วไป โดยจะแบ่งการแสดงผลออกเป็นสองส่วนซ้ายขวา ด้านซ้ายแสดงภาพ Live view แสดงภาพที่ส่งมาจากเลนส์ ส่วนด้านขวาจะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการตั้งค่าต่างๆ ครับ









ภาพตัดส่วนที่ 100%

โดยส่วนตัวผมคิดว่า Sigma sd Quattro เป็นกล้องที่เน้นจุดเด่นในเรื่องคุณภาพของไฟล์ ทำให้ในส่วนของโฟกัสเร็วไม่เท่ากล้องทั่วไป เหมาะกับการถ่ายภาพในสภาพแสงสว่างจะให้ภาพมีคุณภาพที่ดี ความคมชัดดี และในที่ที่แสงไม่เปลี่ยนมาก จะสามารถรีดศักยภาพของเซนเซอร์ได้เต็มที่ เนื่องจากเป็นช่วง Touch & Try ซึ่งได้ลองจับเป็นช่วงสั้นๆๆ ทำให้ลองกล้องได้ไม่เต็มที่ เลยไม่สามารถเก็บส่วนที่บันทึกภาพมาฝากกัน ไว้ถ้ามีโอกาสทางทีมงาน ThaiDphoto จะหยิบมารีวิวกันอีกทีครับ


สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่


http://www.sigma-global.com/en/camer...ries/features/