การจัดไฟถ่ายภาพงานแต่งงาน

[เอคอม]

ห่างหายจากไทยดีไปนานหลายปี 5-6 ปีเห็นจะได้
วันนี้มาแชร์ประสบการณ์การจัดไฟถ่ายภาพงานแต่งงาน น่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้เริ่มต้นบนสายอาชีพนี้นะครับ

ผมก็ลองผิดลองถูกมาตลอด หลายครั้งที่เจอสถานที่ใหม่ๆ
การจัดไฟให้มันเคลียร์ถ่ายง่าย ถ่ายได้ทุกมุม มันก็จะแตกต่างกันไปในรายละเอียดเล็กๆ น้อย
บางสถานที่จัดยากมาก ด้วยพื้นที่ ระยะความสูงของเพดาน และสีของเพดาน ตำแหน่งการวางไฟ วางปลั๊ก ฯลฯ
ออกงานบ่อยๆ จะทราบเองครับ และจะทำให้เราตัดสินใจ และจัดการกับเรื่องพวกนี้ได้ดี และเร็วขึ้นครับ

โดยปกติแล้วผมจะไปถึงงานแต่ง (ช่วงเช้า) อย่างน้อย 1 ชม.ก่อนงานเริ่มหรือมากกว่านั้นครับเพื่อจัดการกับการวางไฟ
และเก็บรายละเอียดต่างๆ
ถ้าเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยผมจะไปก่อน 1 ชม.ครึ่ง หรือมากกว่านั้น
ถ้าเป็นงานต่างจังหวัด จัดงานที่บ้านก็จะไปบ้านงาน ตอนเย็นวันนั้นเลย เพราะหลายครั้ง งานในบ้านจะจัดไฟยากกว่าโรงแรม หรือหอประชุม

สำหรับงานเลี้ยง (ตอนเย็น)
ก็จะไปถึงงานประมาณบ่ายสามโมงหรือเร็วกกว่านั้น เพื่อเลี่ยงการจราจรที่ติดขัด
และจะได้เตรียมจัดไฟ และมีเวลาพักผ่อน
ส่วนเวลาปกติที่เริ่มถ่ายภาพบรรยากาศในห้องแต่งตัว ก็ประมาณ 16.00 - 16.30น.
(ต้องถามเวลาเจ้าสาวก่อนครับ ว่าเริ่มแต่งหน้ากี่โมง เวลาที่เหมาะกับการขึ้นห้องแต่งตัวไปถ่ายก็ 1 ชม.ครึ่งไปแล้ว - 2 ชม.)

-------------------------------------------
เริ่มต้นจากไฟสปอตไลท์ที่ผมใช้ก่อนละกันครับ...
-------------------------------------------
(ภาพจากคุณ chanclub http://www.thaidphoto.com/forums/sho...d.php?t=223890)

Reflecta
อุณหภูมิแสง 3400K (เคลวิน)
ใช้ไฟ 220v
หลอดฮาโลเจน Osram 1000Watt
ราคาโคมพร้อม Osram ประมาณ 3,000 บาท+-
ราคาหลอดสำรอง อยู่ที่ 260 บาท (25 กค.56)
หาซื้อได้ที่ร้านแถวสะพานเหล็กครับ ที่เรียกกันว่าร้านเฮียแว่น

มันผลิตที่ไหนผมไม่ทราบนะครับ แต่หลอดไฟที่มากับโคมจะเป็นหลอดจีน
ใช้แป๊บเดียวก็ขาด อาจจะ 5 นาทีแรก หรือชม.แรก หรือวันแรกครับ
บางร้านก็ขายมาทั้งหลอดจีน บางร้านก็เปลี่ยน Osram ให้ครับซึ่งจะ Oram จะทนกว่ามาก
แต่ปัญหาคือ หลอด Osram จะยาวกว่าหลอดจีนนิดหน่อย
ทำให้เวลาเปลี่ยนหลอดไฟ ต้องใช้ไขควงตัวเล็กๆ ยาวๆ ช่วยดันขั้วหลอดนิดหน่อย

โคมที่ราคาถูกกว่านี้ก็มีครับ ผมเห็นที่ทำขายกันในเว็บ เป็นโคมไฟสนามใส่หลอดแบบนี้แหละ มีตะแกรงกันแมลงให้ด้วย
ประหยัดกว่า ใครจะเลือกแบบนั้นก็ได้นะครับ อาจจะยุ่งยากเวลาตั้งไฟ และเวลาเก็บของนิดหน่อย เพราะต้องมีการไขน๊อต
และขนาดโคมจะใหญ่กว่า ส่วนผมขอเลือกเก็บง่าย ประกอบง่าย และเคลื่อนย้ายสะดวก

ส่วนขาตั้งไฟก็เลือกเอาตามสะดวกครับ
ของผมจะเลือกที่แข็งแรง และยืดได้สูงๆ ครับ ระบบโช้คลม จะดีกว่าสปริง ป้องกันการล้มได้ดีกว่า

[เอคอม]

คำแนะนำสำหรับการใช้สายไฟพ่วง
เตรียมไปทั้งสั้นทั้งยาว ฟิวส์สำรองด้วย ในกระเป๋าผมมีสั้น ยาวคละกันไป รวมๆ แล้วก็ 30 เมตรเห็นจะได้ครับ
ส่วนรถมีต่างหากอีกไว้สำรองเวลาไปเจองานเอาท์ดอร์ ที่ต้องใช้สายยาวมากๆ
สายไฟพ่วง ควรใช้ที่รองรับได้ 2000Watt ครับ
เพราะเวลาเราพ่วงไฟมาแล้ว ต้องมีอุปกรณ์อื่นๆ มาต่อด้วยเช่นไฟสตูดิโอ
หรือบางครั้งอาจต้องพ่วงสปอตไลท์เพิ่มอีกดวง ถ้าหาปลั๊กไม่ได้จริง
และสายพ่วงที่อยู่ในตลับ ต้องคลายออกมาให้หมด แล้วม้วนหลวมๆ ไว้ข้างนอก ถ้าสายเหลือ
เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนสะสมที่สายมากเกินไป ผมเคยใส่ตลับไว้ สายอ่อนจนละลายเลย

คำแนะนำสำหรับการเปลี่ยนหลอด และการเก็บโคมไฟ
ห้ามใช้มือสัมผัสหลอดโดยตรง หากเผลอไปโดน ให้ใช้ทิชชู่หรือผ้าเช็ดเลนส์ เช็ดหลอดให้สะอาดได้ครับ
คราบมันจากรอยนิ้วมือ จะทำให้หลอดระเบิดเวลาเปิดใช้งานได้
เวลาเปลี่ยนหลอดให้ใช้กระดาษที่ห่อหลอดไฟมา หรือทิชชู่จับหลอดไว้

คำแนะนำสำหรับของในกระเป๋าเก็บไฟ และขาตั้ง
ผมใช้กระเป๋าที่เก็บปืน BB ครับ มีขายแถวคลองถม (แถวๆ วัดชัยชนะสงคราม หรือที่เรียกกันว่าวัดตึก)
เก็บขาได้ 3 ขา และโคมสปอตไลท์ Reflecta ได้ 3-4 โคม
ผมมีสองกระเป๋า เพราะผมใช้ 6 ดวงรวมไฟสตูด้วย เก็บพวกโคมและสายพ่วง และขาได้หมดในสองกระเป๋า
ราคา 1 ใบ 600บาท 2 ใบ 1,000 บาท
**ควรมีหลอดไฟสำรองติดกระเป๋าไว้อย่างน้อยก็ 2-3 หลอด เพราะโอกาสขาดพร้อมกันมีเสมอครับ
รวมทั้งแลคซีลหลายๆ ม้วนไว้ติดล็อคขากันคนมาเตะ และติดสายที่พื้นเพื่อความเรียบร้อย

กระเป๋าไฟสตูดิโอ
จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจจะใช้กระเป๋าใบนี้ครับ มันเป็นกระเป๋ากล้องยี่ห้อโฟโต้ไฟล์รุ่นเทรกกิ้งอะไรสักอย่าง
ตอนแรกเอามาใส่กล้อง รู้สึกว่าใหญ่ไป เลยลองเอามาใส่ไฟสตูดิโอดูครับ ปรากฎว่าลงตัวดีสำหรับไฟดวงไม่ใหญ่มาก

เทคนิคเล็กๆ ที่ทำให้โคมสปอตไลท์แข็งแรงขึ้น
จากภาพด้านล่างขวา
บริเวณเราต้องหมุนโคมเข้ากับขาตั้ง ปกติจะเป็นพลาสติกหุ้มน๊อตไว้เฉยๆ โอกาสที่พลาสติกจะแตกมีสูงมาก เวลาถอดเข้าออกบ่อยๆ หรือเคลื่อนย้ายขาผิดวิธี
เพียงแค่เอาแผ่นอลูมิเนียมยาวๆ ที่แถมมากับโคมไฟ เอามาตัดให้พอดีเหมือนในภาพ กับตัวล็อคกลมๆ ที่แถมมาเช่นกันเอามาล็อคแผ่นไว้
เวลาประกอบกับขา ก็ประกอบเข้าที่ตัวหมุนกลมๆ แค่นี้ก็ไม่แตกง่ายแล้วครับ

อุปกรณ์แบบในภาพเนี่ย ผมจะมี 2 ชุดครับ อีกชุดก็เก็บไว้กับน้องช่างภาพอีกคนที่ทำงานด้วยกัน

[เอคอม]

--------------------------------------
จัดไฟถ่ายพิธีหมั้น - ภาพหมู่บนเวที
--------------------------------------
แบบนี้งานง่ายครับ แค่วางไฟสปอตไลท์ ซ้าย 1 ดวง ขวา 1 ดวง ไฟสตูดิโอก็ตำแหน่งเดียว
ไฟสปอตไลท์ดึงขึ้นสูงๆ
ไฟสตูดิโอยิงเบาท์ วัดแสงให้เท่ากัน (ต้องมีเครื่องวัดแสง)
ทั้งตำแหน่งคนนั่ง และคนยืน ต่างกันนิดหน่อยไม่เป็นไร 0.1 - 0.3 Stop
องศาที่เอียงของไฟสตูมีผลต่อแสงที่ตกกระทบแบบ เอียงมากเอียงน้อยลองปรับดูแล้ววัดแสงเอาครับ

ที่ขาดั้งติดแลคซีลให้เรียบร้อย
ที่พื้นก็ติดสายให้เรียบร้อย

ภาพหมู่ถ่ายไฟสตูก็ใสเคลียร์
ถ่ายแคนดิดไม่ใช้แฟลชก็แฮปปี้

[เอคอม]

------------------
พิธีรับไหว้ ยกน้ำชา
------------------
จากไฟที่เราจัดไว้แล้ว เพียงแค่เติมไฟสปอตไลท์ทางด้านขวาหรือซ้ายอีกสักดวง ก็ถ่ายง่ายขึ้นแล้วครับ
ส่วนโซฟาให้หันข้างมาทางเรานะครับ จะได้มองเห็นบ่าวสาว และแขก ไม่ใช่เห็นแต่ก้นบ่าวสาวครับ

หันทางไหน ใครอยู่ซ้าย ใครอยู่ขวา?

ประเพณีไทย
หญิงซ้าย - ชายขวา

ประเพณีจีน
หญิงขวา - ชายซ้าย

ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วแต่ผู้ใหญ่งานนั้นละกันครับ
ว่าจะจัดอย่างไร เราแค่แก้ปัญหาไปตามสถานการณ์

เจ้าสาวอยู่ซ้าย ก็จัดโซฟาให้อยู่ซ้ายช่างภาพเวลาถ่าย
เจ้าสาวอยู่ขวา ก็จัดโซฟาให้อยู่ขวาช่างภาพเวลาถ่าย

[เอคอม]

------------
พิธีรดน้ำสังข์
------------
สปอตไลท์นอกจากด้านหน้าซ้าย 1 ดวง ขวา 1 ดวงแล้ว
ก็จะเพิ่มสปอตไลท์ด้านที่เรายืนอีกดวงครับ อาจจะเบาท์หรือยิงตรงก็ได้ครับ ถ้าแรงไปใส่ดิมเมอร์หรี่ไฟ

ส่วนไฟสตูดิโอก็ให้อยู่ด้านหน้าเหมือนเดิมครับ ซ้าย 1 ดวง ขวา 1 ดวง
ยิงเบาท์อย่างเดียวครับ ร่มเนี่ยถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าเอามาใช้ครับ คุมแสงยาก แข็งกว่า และเกะกะในงาน

ปกติเราจะเห็นช่างภาพหลายท่านนิยมใช้ไฟสตูดิโอถ่ายรดน้ำใช่มั๊ยครับ ใช้ F5.6 เป็นหลัก
แต่สำหรับผมแล้ว ไม่ใช้ครับ ไฟสตูเอาไว้ถ่ายรูปหมู่หลังรดน้ำเสร็จเท่านั้น

จะใช้พวกเลนส์ 50 หรือ 85 ถ่ายครับ
เวลาถ่ายก็ให้เห็นครบทุกคน ตำแหน่งยืนจะต้องเหมาะสม

บางสถานที่แคบไปก็จะใช้ 24-70 หรือหนักสุดก็ 16-35 ครับ
ถ้าหลังกล้องยืนไม่ได้จริงๆ ก็ตั้งขาไว้แล้วกดเอาแบบไม่ส่องวิวไฟเดอร์ (แคบมากๆ)

จากภาพก็จะเห็นว่าถ่ายได้ทุกมุมครับ

[เอคอม]

พักเบรคไว้ก่อนนะครับ แล้วจะมาต่อใหม่ครับ
ว่าแต่ทำไมกระทู้มัน Sticky ไว้ได้นะ ตอนโพสต์ก็ไม่ได้ติ๊กอะไรไว้นะครับ

[เอคอม]

-------
พิธีสงฆ์
-------
พิธีสงฆ์จัดง่าย ไม่ซีเรียสเท่าพิธีหมั้น และอื่นๆ
สังเกตจากภาพซ้ายบน
ผมวางไฟสปอตไลท์เบาท์เพดาน ซ้าย 1 ดวง ขวา 1 ดวงในแนวเดียวกัน
ซึ่งครอบคลุมบริเวณพื้นที่ได้เกือบทั้งหมด
ห้องเล็กๆ เพดานไม่สูง แค่เบาท์ก์ถ่ายง่ายแล้วครับ

ช่วงไหนไม่ได้ถ่ายนานๆ ก็ปิดครับ เช่นตอนพระฉัน

** ข้อควรระวังในการใช้สปอตไลท์
- ระวังอย่าให้ไฟโดยปรอทจับความร้อนบนเพดานในระยะใกล้ เป็นไปได้ผมจะเลี่ยงไม่ให้ไฟโดนปรอท
ไม่ว่าจะโดนแสงอ่อนแค่ไหนก็ตาม คือจะพยายามหันไฟไม่ให้ไฟผ่านปรอทเลย แต่ถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้ห่างปรอทมากที่สุด
รวมทั้งเซนเซอร์จับความร้อนแบบอื่นๆ ด้วย
- ระวังผ้าม่าน ผ้าต่างๆ กระดาษ และการเบาท์ที่ใกล้เพดาน หรือผนังมากเกินไป ด้วยความร้อนจะทำให้ผ้าไหม้ และผนังหรือเพดานเสียหายได้ครับ
- ระวังกระจกทุกชนิด เคยมีคนในวงการส่องไฟไปโดนกระจก กระจกแตกมาแล้วครับ

[เอคอม]

ต่อไปมาลองมาดูเคสยากกันบ้างครับ
ยากยังไง ? ยากตรงที่เพดานเป็นไม้ทาสีเข้ม จริงๆ ก็เบาท์ได้แต่แสงหายไปเยอะ
มาห้องนี้ผมเคยเบาท์แล้ว พอถ่ายรูปหมู่ สีผิวไม่ถูกใจเท่าไหร่ มันไม่ค่อยสวย
มาครั้งที่ 2 เลยตัดสินใจกางร่มแทน ปกติปีนึงจะได้กางร่มแค่ไม่กี่หนครับ 2-3 หน ถ้าไม่ยากจริงๆ

ยากอย่างที่ 2 คือมีแสงแดด (Daylight) เข้ามาในห้องเยอะ ด้านนึงก็เป็นกระจก ด้านหลังก็เป็นกระจก
ถ้าไฟสปอดตไลท์อ่อนๆ ก็สู้แดดไม่ไหว ติดฟ้าๆ เหลืองๆ แก้สียากมาก ไม่สวยเท่าที่มีแสงใดแสงหนึ่งล้วนๆ

ถ้าปิดม่านได้ให้ปิดม่านครับ อย่างกรณีนี้ปิดไม่ได้ ก็เพิ่มไฟละกัน
-- ช่วงถ่ายพิธีตรงๆ ก็ใช้แต่สปอตไลท์ครับ ไม่ใช้ร่ม (ภาพบนขวา)
-- ช่วงถ่ายภาพหมู่ ก็ใช้ไฟร่ม (ภาพล่างขวา) ใสเคลียร์แต่แข็งไม่ถูกใจเท่าไหร่
ถ้าเข้าใกล้ได้กว่านี้ก็จะนุ่มขึ้น แต่มันก็จะใกล้เกินไป ก็ถือว่า OK ครับ ให้ผ่านละกัน

ลองสังเกตจากภาพด้านซ้ายนะครับ
นอกจากไฟซ้ายขวาหน้าเวทีแล้ว
ด้านขวามือของช่างภาพมีอีกดวง ซึ่งไว้ใช้ถ่ายเวลารับไหว้และรดน้ำสังข์
ส่วนด้านหลังมีอีก 1 ดวง สาดไฟไปที่แขกครับ สำหรับแคนดิด

ไฟที่ตั้งไว้เนี่ยนอกจากส่องไปทางเวทีแล้ว
เวลาที่เจ้าบ่าวเดินขันหมากเข้ามา เราก็หันไปส่องทางขบวนก่อนได้ครับ

[Davil]

เยี่ยมไปเลย มีประโยชน์มากก

[phonlamai]

คิดถึงพี่เอคอมมากครับ อ่านตั้งแต่สมัยพี่เขียนตอนเริ่มจับงานถ่ายรูปใหม่ๆเลย นึกว่าทิ้งน้องๆหายไปไหนซะแล้วครับ

จะตามอ่านจนจบเลยนะครับ กระทู้เก่าๆของพี่เป็นเหมือนครูของผมเลย ขอบคุณมากนะครับพี่

[เอคอม]

-----------------------
ห้อง Author's Lounge
-----------------------
สำหรับบางห้องจัดงานเราตั้งแต่ไฟสตูดิโอก็พอครับ สำหรับงานกลางวัน
ขอยกตัวอย่างห้อง Author's Lounge นะครับ ในโรงแรมแมนดารินโอเรนเตล

ผมเป็นช่างภาพต่างจังหวัด เมื่อก่อนเคยภาพจากห้องนี้ ก็ตื่นตาตื่นใจ ใฝ่ฝันว่าจะมาถ่ายห้องนี้ให้ได้
สมัยถ่ายฟิล์มไม่เคยได้ถ่ายห้องนี้เลย พอมาถึงยุคสมัยของกล้องดิจิตอล FullFrame เลยได้มาถ่ายครับ

ลักษณะห้องลองดูจากภาพนะครับ มีแสงแดดอ่อนๆ ผ่านมากจากเพดานโปร่งแสงด้านบน
รอบๆ ห้องเป็นสีขาวทั้งหมด เบาท์แฟลชได้สบายมาก

ผมตั้งไฟไว้ซ้ายขวา ของเวทีเหมือนเดิม แต่หลบมุมห่างออกมาก

เมื่อก่อนต้องใช้ปลั๊กต่อแบบพิเศษ สามขาแบน
ซึ่งจะมีสองโรงแรมคือโอเรนเตล และเพนนินซูล่าครับ
แต่ตอนนี้โอเรนเตลเปลี่ยนปลั๊กเป็นแบบธรรมดาแล้ว เลยไม่ต้องใช้
แต่เพนนินซูล่ายังคงต้องใช้อยู่ครับ ถ้าไม่มีก็ขอโรงแรมได้ แต่เราเตรียมไปดีกว่าครับ สัก 3-4 อัน

ปล.ถ้าได้ไปถ่ายห้องนี้ อย่าลืมชิม น้ำตะไคร้ น้ำลิ้นจี่ ข้าวมันไก่ ยำส้มโอ และทูน่าแครกเกอร์ให้ได้นะครับ (ถ้ามี)

[แมงสาบ]

หลาย ๆ อย่าง เป็นทริกและเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มือใหม่บางท่าน ( อย่างผม ) อาจลืมมอง หรือไม่ได้ให้ความสนใจ

เป็นประโยชน์ และดีจริง ๆ ครับ

ขอบคุณครับ

[kuk]

ขอบพระคุณมากๆ และขอกราบงามๆสำหรับความเมตตาครับ

[Carbon]

พักเบรคไว้ก่อนนะครับ แล้วจะมาต่อใหม่ครับ
ว่าแต่ทำไมกระทู้มัน Sticky ไว้ได้นะ ตอนโพสต์ก็ไม่ได้ติ๊กอะไรไว้นะครับ

กระทู้ดีๆแบบนี้ต้องจับ sticky ซิครับ อิอิอิ

[d90d300]

ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมปูพรม แม้จะวางสายแนบผนังแล้ว แต่มีความจำเป็นต้องพาดเข้าส่วนกลางที่มีคนเดิน ติดเทปยังไงดี บางงานเทปเอาไม่อยู่
(ผมเคยเอาสายไฟไปพันเสา สอดไว้ใต้กระถางต้นไม้ ช่วยให้มันหนักขึ้น เวลาคนเดินเตะจนเทปหลุดก็ยังมีอย่างอื่นช่วยลดแรงดึงไว้ก่อนที่แรงจะมาถึงเสาไฟเรา)