อุปกรณ์เพื่อสุขภาพจาก GARMIN
สร้างสรรค์เพื่อคนรักสุขภาพ ทั้งอุปกรณ์ช่วยคำนวนแคลอรี่ในการเผาผลาญของร่างกาย (เครื่องนับก้าวเดิน)
อุปกรณ์ช่วยเก็บข้อมูลของนักวิ่ง รวมไปถึงกล้อง Camera Action ที่เหมาะกับนักกีฬาทุกประเภท
มีตัวเด่นๆ และน่าสนใจอยู่หลายตัว เลยขอเอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ
เริ่มจากตัวแรก (ที่โมโม่ชอบมากกก
) กันเลยค่ะ

Vivofit อุปกรณ์นับก้าว เอาใจคนรักสุขภาพ ที่มาพร้อมฟีเจอร์มากมาย 
Vivofit เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยนับการก้าวเดินในชีวิตประจำวันของเราค่ะ เก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวของเราทุกย่างก้าว ที่คุณใส่ (แหะๆ ถ้าถอดวางไว้ มันจะรู้ได้ไงเนอะ 
) ในทุกๆ ก้าวที่เราเดิน หรือนอน มันจะช่วยเก็บข้อมูลว่าเราเดินไปกี่ก้าว นับเป็นระยะทางเท่าไหร่ คำนวณแล้วเผาผลาญแคลอรี่ไปได้กี่มากน้อย เวลาหลับ เวลานอน หลับสนิทรึเปล่า ตื่นกลางดึกหรือไม่ ช่วยให้เรารู้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวเราได้มากขึ้นค่ะ คราวนี้เราแวะไปดู Spec เด่นๆ ของตัวนี้กันก่อนนะคะ
จุดเด่น
- แบตเตอร์รี่ใช้ถ่านกระดุม 2 ก้อน ใช้งานได้ 1 ปี ไม่ต้องชาร์จ
- กันน้ำ ได้ระดับลึกถึง 50 เมตร
- มีแถบสีแดง บอกถึงการอยู่กับที่เฉยๆ เป็นเวลานานเกิน 1 ชั่วโมง เพื่อเตือนให้เราลุกขึ้นเดิน
- เก็บข้อมูล วางแผน และแชร์ความก้าวหน้าบน Social ได้เลย
- แสดงจำนวนก้าว แคลอรี่ ระยะทาง และติดตามการนอน
- ใช้คู่กับเครื่องวัดระดับชีพจร เวลาออกกำลังกายเพื่อแสดงข้อมูลอัตราชีพจร
- สายรัดข้อมือ มี 5 สีให้เลือก ดำ เทา เขียว น้ำเงิน ม่วง และสามารถถอดเปลี่ยนสลับสีได้

ในจำนวนอุปกรณ์ประเภทเดียวกันนี้ ตัว Vivofit ถือว่าแบตเตอร์รี่อึดสุด ก่อนหน้านี้โมโม่เคยใช้งานกับของอีกยี่ห้อนึง จะติดปัญหาใหญ่ๆ ก็เรื่องชาร์จแบตนี่แหละค่ะ เพราะอุปกรณ์ตัวนี้ทำงานหลักๆ 2 อย่างคือ นับการก้าวเดิน และการนอนหลับ ทำให้การเคลื่อนไหวในทุกๆ อิริยาบท และการนอนในทุกๆ คืน เป็นข้อมูลที่เจ้าตัวนี้ต้องการทั้งสิ้น ทีนี้ คำถามคือ จะชาร์จตอนไหนคะ นอนก็ต้องใส่ ระหว่างวันก็ต้องใส่ เนอะ
ตัว Vivofit เลยออกแบบมาให้ใช้งาน Battery ได้ยาวนาน 1 ปี และที่สำคัญ ไม่ต้องชาร์จค่ะ แบตหมด ขันน๊อต เปลี่ยนแบตกระดุม 2 ก้อน รหัส CR1632 ใช้งานได้เลย

ตอกย้ำการใช้งานอย่างต่อเนื่องของอุปกรณ์ Vivofit ที่มาเหนือคู่แข่งอีกอย่างนึง คือ กันน้ำ ได้ระดับลึก 50 เมตร ค่ะ เรียกว่าใส่ว่ายน้ำลงในสระได้สบายๆ แน่นอนค่ะ โมโม่ชอบมาก เพราะเวลาอาบน้ำก็ใส่ไว้ได้ตลอด ทำให้นับแคลอรี่ได้ทุกก้าวแม้ตอนอาบน้ำ หรือล้างมือเลยค่ะ

การทำงานของเจ้า Vivofit สามารถเชื่อมได้ด้วย Blutooth 4.0 หรือจะเชื่อมต่อกับ Computer ก็มี USB Blutooth มาให้ใช้งานด้วยค่ะ ถ้าจะเชื่อมกับคอมพิวเตอร์สามารถไปโหลดโปรแกรมได้ http://connect.garmin.com/en-US/start/ เลยค่ะ

แต่ถ้าจะใช้ผ่าน Smartphone ก็ใช้ App ตัวนี้

ตัวนี้ สำหรับค่าย IOS ค่ะ

ตอนแรกก่อนใช้งานเจ้าตัวนี้ ข้อมูลเบื้องต้นเค้าบอกมาว่า โดยเฉลี่ยคนเราเดินประมาณ 10,000 ก้าว ต่อวัน ซึ่งเป็นที่มาว่าคนเราทั่วๆ ไปจะเผาผลาญได้ประมาณ วันละ 2000 กิโลแคลอรี่ พอใส่วันแรกทำงานแบบปกติ อึ้งมากค่ะ ไอ้เรานี่เดินไม่ถึง 3 พันก้าว ต่อวันเลย เหอๆๆๆ

นอกจากเจ้าตัวนี้จะช่วยเราประเมินการเผาผลาญแคลอรี่ของเราในแต่ละวันให้แล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เราขยันเดินอีกด้วยค่ะ ด้วยแถบสีแดง ที่จะเตือนยาว เมื่อเรานั่งนานเกิน 1 ชม. ทางการ์มินเค้าบอกมาว่า โดยสถิติของคนเราถ้าไม่เคลื่อนไหวนานเกิน 1 ชม. ตัวเมตาบอลิซึ่ม จะเผาผลาญช้าลง หรือเรียกง่ายๆ ว่าร่างกายจะเข้าสู่ Sleep Mode นั่นเองค่ะ เจ้า Vivofit ตัวนี้เลยช่วยเตือนเราว่า 1 ชั่วโมงแล้วนะ ไปเดินหน่อยสิ แล้วถ้าเรายังดื้อไม่ไปอีก ก็จะช่วยเตือนอีก เป็นแถบสั้นๆ แถบละ 15 วินาที ค่ะ ซึ่งโมโม่ลองแล้วค่ะ ต้องลุกเดินประมาณนึงเลยค่ะ อาจจะ 200 ก้าว เลยนะคะ แถบสีแดงถึงหายไป แหะๆ เจ้านายจะหาว่าเราอู้งานรึเปล่าเนอะ 


หน้าจอการทำงานของเจ้าตัวนี้ จะมีปุ่มให้กดปุ่มเดียว ใช้ทุกอย่างค่ะ กด Sync เพื่อแชร์ข้อมูลเข้าคอม (ตัวเครื่องเก็บข้อมูลได้ 1 เดือนสบายๆ โดยไม่ต้อง Sync เลยค่ะ) แต่ถ้าอยากดูข้อมูลในแต่ละวันก็ต้องกดเพื่อ Sync ข้อมูลนะคะ
หน้าจอที่มีรูปเท้า คือจำนวนก้าวที่เราเดินไปในวันนี้ค่ะ ซึ่งถ้าเรากดอีกครั้ง จะมีคำว่า Goal คือ จำนวนก้าวเท้าที่เหลือ ที่ต้องเดินให้ครบเป้าหมายที่เราตั้งเอาไว้นะคะ
เวลาจะนอน กดค้างไว้เพื่อให้ขึ้นคำว่า SLEEP เพื่อบอกเครื่องว่าเราจะนอนค่ะ อันนี้ถือว่าขัดใจนิดหน่อย เพราะเวลาตื่นกลางดึก นึกว่าจะดูเวลาในข้อมือได้ แต่ดูไม่ได้ค่ะ มันขึ้นจะข้อความว่า SLEEP ทั้งคืน จนเรากดอีกครั้ง เพื่อบอกว่าเราตื่นแล้วนะคะ

ฟีเจอร์ที่ใช้งานของโปรแกรม Garmin Connect มีหลายส่วนมากเลยค่ะ แสดงให้เราทราบถึงอัตราการเดินในแต่ละวัน เดือน หรือแม้แต่ดูเป็นรายชั่วโมง ว่าเราเดินไปกี่ก้าว คิดเป็นกี่ กิโลเมตร และเผาผลาญไปได้กี่แคลอรี่ รวมไปถึงจัดอันดับกับเพื่อน แข่งขันกันได้อีกด้วยค่ะ

ส่วนที่ติงนิดหน่อยของเจ้าตัวนี้ ก็คือ มันไม่มีตัวนับการเดินขึ้นบันไดค่ะ ซึ่งถ้าเป็นคู่แข่งก็ต้องเป็นบางรุ่นเหมือนกันค่ะ ถึงจะมี แต่แอบรู้สึกว่าการนับการขึ้นบันไดมันเผาผลาญแคลอรี่ได้เยอะกว่าการเดินนะ ถ้ามีด้วยจะชอบมากค่ะ
และเจ้าตัวนี้เป็นสายรัดข้อมือ ซึ่งแน่นอนว่ามันทำงานแทนนาฬิกาข้อมือด้วยอยู่แล้ว (ก็แหม ใครจะใส่สองเส้นให้เกะกะล่ะเนอะ
) แต่มันเป็นนาฬิกาที่ไม่ค่อยดีนัก คือไม่มีไฟส่องสว่างเพื่อดูเวลาในที่แสงน้อย หรือที่มืดเลยนะคะ ส่วนหน้าจอที่หันองศาคนละทางกับนาฬิกา อันนี้ไม่เป็นปัญหาค่ะ ใส่ไปสักพัก ก็จะคุ้นเองนับว่าการมองนาฬิกาได้สะดวกดีอยู่
ข้อสรุปของเจ้าอุปกรณ์ Vivofit ตัวนี้ค่ะ
ข้อดี --> เยอะมากอะ
- แบตเตอร์รี่อึด ทำให้การใช้งานได้ต่อเนื่องและเต็มประสิทธิภาพของการนับแคลอรี่อย่างแท้จริง
- ทน และกันน้ำ ทำให้การใช้งานได้ต่อเนื่องกว่าเดิมอีก เพราะไม่ต้องถอดออกเลย ไม่ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไร
- แถบเตือนสีแดง ช่วยกระตุ้นให้เราสนใจกับการเดินมากกว่าแค่ใส่ไว้เฉยๆ แล้วมารู้ทีหลังว่า เราเดินน้อยไป
- เชื่อมต่อสะดวกด้วย Blutooth ไม่ต้องวุ่นวายกับการถอดออกเพื่อเชื่อมต่อ
- โปรแกรมการทำงานครอบคลุมทั้งการใช้ชีวิตประจำวันทั่วๆ ไป และการออกกำลังกาย ที่เพิ่มการเผาผลาญแคลอรี่มากขึ้น
ข้อด้อย -->
- ไม่มีตัวนับการเดินขึ้นบันได
- หน้าจอไม่มีไฟ ทำให้การใช้งานในที่แสงน้อยทำไม่ได้
ราคาขายเจ้า Vivofit ตัวนี้อยู่ที่ 4,800 บาท มี มี 5 สีให้เลือก ดำ เทา เขียว น้ำเงิน ม่วง และสามารถถอดเปลี่ยนสลับสีได้ โดยสายที่สลับเปลี่ยน ซื้อเพิ่มได้ในราคา 700 บาท (สายที่แยกขายมี 3 สี ค่ะ เขียว น้ำเงิน และม่วง)
SmartPhone ที่สามารถใช้งานไร้สายร่วมกันได้ต้องเป็น Bluetooth 4.0 และแอนดรอยด์ 4.3 ขึ้นไป นะคะ ส่วยค่ายไอโฟน ก็ต้อง iOS 7 ค่ะ

Bookmarks