thaidphoto
14th March 2015, 11:13
บทสนทนากับ คุณเมดะ มัสสายะ (Masaya Maeda) Managing Director and Chief Executive, Image Communication Products Operation at Cannon ที่งาน CP+ 2015 ที่ โยโกฮาม่า
1698606528
เนื้อหาสรุปมาจากบทความของ DP Review “CP+ 2015: Cannon Interview – ‘everyday I’m saying ‘speed up’’ March 10, 2015 by Barney Britton and Rishi Sanyal
http://www.dpreview.com/articles/5301008561/cp-2015-canon-interview-every-day-im-saying-speed-up
แคนนอนใช้เวลาถึง 7 ปีในการแก้ปัญหาเรื่อง ความสมดุลระหว่างความต้องการจำนวนพิกเซลที่มากขึ้นโดยที่ คุณภาพของพิกเซลต้องไม่ลดลง (pixel-level image quality) เพื่อการพัฒนาขนาดพิเซลสูงสุดจาก ~22MP ถึง 50MP ในกล้อง EOS 5DS และ 5DS R เนื่องจากเป้าหมายที่ถูกตั้งไว้ในเรื่องคุณภาพของพิกเซล ทุกๆ ปีแคนนอนจะจับเข่าคุยกับผู้สื่อข่าว (photojournalists) เพื่อรับฟังความต้องการของเขาเหล่านั้นในการปฏิบัติหน้าที่สิ่งที่ได้รับการเรียกร้องมากที่สุดก็คือ ไม่ว่าขนาดของพิกเซลจะใหญ่ขึ้นขนาดไหน คุณภาพของ พิกเซลจะต้องไม่ลดลง
1698606529
แคนนอนแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจำนวนข้อมูลที่สูงขึ้นจากจำนวนพิกเซลที่สูงขึ้นโดยการพัมนาระบบ Digic 6 platform ขึ้นมาใหม่
แคนนอนกำหนด ISO limit สำหรับ กล้อง 5DS และ 5DS R ไว้ค่อนข้างต่ำเพื่อสนองความต้องการของกลุ่ม เป้าหมายหลักของกล้องสองตัวนี้ นั่นคือช่างกล้องระดับมืออาชีพ ซึ่งต้องการมาตรฐานที่สูงกว่าช่างกล้องทั่วไป ที่จะเหมาะกับ กล้องแบบ 7D Mark II มากกว่า
Canon EOS M3 (mirrorless) ไม่ได้เปิดตัวในอเมริกาเนื่องจาก Canon USA ไม่ต้องการสั่งกล้องรุ่นนี้ไปขาย คุณเมดะทีความเห็นว่า คนอเมริกันไม่ชอบกล้องตัวเล็กๆ
1698606530
ในเรื่องความรุดหน้าของการพัฒนาทางเทคนิกของกล้องมิเรอร์เลสของคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง on-sensor phase detection autofocus หรือ Tracking ซึ่งอาจจะตามทันหรือแซงหน้ากล้อง DSLR ในอีกไม่นานนี้ คุณเมดะรับรู้และให้ความเคารพในความสามารถของคู่แข่งในเรื่องนี้ แคนนอนเองก็มีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนากล้องมิเรอร์เลส เช่นกัน แต่ แคนนอนยังไม่มีความมั่นใจว่า ระหว่าง กล้องมิเรอร์เลส กล้อง DSLR และ กล้องคอมแพคระดับ high-end กล้องแบบใหนที่จะสามารถครองความเป็นเจ้าในตลาดได้ในอนาคต ดังนั้นที่แคนนอน เราจะไม่มองกล้อง มิเรอร์เลสของคนอื่นเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ทีมกล้องมิเรอร์เลสของแคนนอน จะมองทีมกล้อง DSLR และกล้องคอมแพค high-end ของแคนนอนเองต่างหาก เป็นคู่แข่งตัวสำคัญ
แคนนอนมีแผนที่จะผลิตเลนส์ดีๆ อีกหลายตัว สำหรับกล้องมิเรอร์เลส EOS M ในอนาคต
1698606528
เนื้อหาสรุปมาจากบทความของ DP Review “CP+ 2015: Cannon Interview – ‘everyday I’m saying ‘speed up’’ March 10, 2015 by Barney Britton and Rishi Sanyal
http://www.dpreview.com/articles/5301008561/cp-2015-canon-interview-every-day-im-saying-speed-up
แคนนอนใช้เวลาถึง 7 ปีในการแก้ปัญหาเรื่อง ความสมดุลระหว่างความต้องการจำนวนพิกเซลที่มากขึ้นโดยที่ คุณภาพของพิกเซลต้องไม่ลดลง (pixel-level image quality) เพื่อการพัฒนาขนาดพิเซลสูงสุดจาก ~22MP ถึง 50MP ในกล้อง EOS 5DS และ 5DS R เนื่องจากเป้าหมายที่ถูกตั้งไว้ในเรื่องคุณภาพของพิกเซล ทุกๆ ปีแคนนอนจะจับเข่าคุยกับผู้สื่อข่าว (photojournalists) เพื่อรับฟังความต้องการของเขาเหล่านั้นในการปฏิบัติหน้าที่สิ่งที่ได้รับการเรียกร้องมากที่สุดก็คือ ไม่ว่าขนาดของพิกเซลจะใหญ่ขึ้นขนาดไหน คุณภาพของ พิกเซลจะต้องไม่ลดลง
1698606529
แคนนอนแก้ปัญหาเรื่องการบริหารจำนวนข้อมูลที่สูงขึ้นจากจำนวนพิกเซลที่สูงขึ้นโดยการพัมนาระบบ Digic 6 platform ขึ้นมาใหม่
แคนนอนกำหนด ISO limit สำหรับ กล้อง 5DS และ 5DS R ไว้ค่อนข้างต่ำเพื่อสนองความต้องการของกลุ่ม เป้าหมายหลักของกล้องสองตัวนี้ นั่นคือช่างกล้องระดับมืออาชีพ ซึ่งต้องการมาตรฐานที่สูงกว่าช่างกล้องทั่วไป ที่จะเหมาะกับ กล้องแบบ 7D Mark II มากกว่า
Canon EOS M3 (mirrorless) ไม่ได้เปิดตัวในอเมริกาเนื่องจาก Canon USA ไม่ต้องการสั่งกล้องรุ่นนี้ไปขาย คุณเมดะทีความเห็นว่า คนอเมริกันไม่ชอบกล้องตัวเล็กๆ
1698606530
ในเรื่องความรุดหน้าของการพัฒนาทางเทคนิกของกล้องมิเรอร์เลสของคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง on-sensor phase detection autofocus หรือ Tracking ซึ่งอาจจะตามทันหรือแซงหน้ากล้อง DSLR ในอีกไม่นานนี้ คุณเมดะรับรู้และให้ความเคารพในความสามารถของคู่แข่งในเรื่องนี้ แคนนอนเองก็มีความตั้งใจจริงที่จะพัฒนากล้องมิเรอร์เลส เช่นกัน แต่ แคนนอนยังไม่มีความมั่นใจว่า ระหว่าง กล้องมิเรอร์เลส กล้อง DSLR และ กล้องคอมแพคระดับ high-end กล้องแบบใหนที่จะสามารถครองความเป็นเจ้าในตลาดได้ในอนาคต ดังนั้นที่แคนนอน เราจะไม่มองกล้อง มิเรอร์เลสของคนอื่นเป็นคู่แข่งที่น่ากลัว ทีมกล้องมิเรอร์เลสของแคนนอน จะมองทีมกล้อง DSLR และกล้องคอมแพค high-end ของแคนนอนเองต่างหาก เป็นคู่แข่งตัวสำคัญ
แคนนอนมีแผนที่จะผลิตเลนส์ดีๆ อีกหลายตัว สำหรับกล้องมิเรอร์เลส EOS M ในอนาคต